ถ้าคุณกำลังพิจารณาติดตั้ง Video Wall ในห้าง สำนักงาน โชว์รูม ร้านอาหาร หรือ event ชั่วคราว สิ่งแรกที่ต้องเคลียร์คือภาพรวมงบทั้งหมด ไม่ใช่แค่ราคาจอ ความจริงแล้วหลายโครงการพลาดไปกับค่าใช้จ่ายแฝง ตั้งแต่ตัวยึด โครงสร้าง ระบบควบคุม ไปจนถึง software digital signage และค่าแรงติดตั้ง งานที่คิดว่าง่ายเลยบานปลาย ผมทำโปรเจกต์จอภาพโฆษณาและจอประชาสัมพันธ์มาหลายปี เห็นเคสหลากหลาย ทั้งองค์กรที่ได้ราคาดีเพราะออกแบบถูกทาง และเคสที่ต้องรื้อเพราะไม่เผื่อระยะเวลากับสเปกไฟฟ้า วันนี้ขอถอดต้นทุนจริงที่ต้องเจอ พร้อมเรตราคาอัปเดตในตลาดไทยช่วงนี้ จอโฆษณาแนวตั้ง เพื่อให้คุณประเมินราคา digital signage ได้แม่นขึ้น
วางภาพรวมตลาดก่อนเลือกสเปก
Video Wall ในไทยยังแบ่งใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม การเลือก software digital signage คือจอแยกขอบบางแบบ LCD, จอ LED แบบโมดูล และจอขนาดใหญ่แบบ commercial ที่นำมาต่อภาพร่วมกัน ทั้งสามแนวทางใช้ได้ แต่อินพุตความละเอียด พื้นที่ติดตั้ง และงบประมาณ จะเป็นตัวชี้ชะตา
LCD Video Wall เหมาะกับพื้นที่ในอาคารที่ต้องการภาพคมในระยะใกล้ เห็นตัวอักษรชัด ทั้งยังมีราคาต่อพื้นที่ถูกกว่า LED ในระดับความละเอียดใกล้กัน จุดอ่อนคือขอบจอที่ยังมีรอยต่อ ขอบบางสุดในตลาดตอนนี้อยู่ราว 1.7 ถึง 3.5 มิลลิเมตรต่อจอ เมื่อประกอบ 2 จอรอยต่อจะมากขึ้นสองเท่า
LED Video Wall หรือจอ led full color เหมาะกับงานที่ต้องการไร้รอยต่อจริงจัง และรับแสงแวดล้อมได้ดี จุดพิกเซลหรือ pitch ยิ่งต่ำ ค่าใช้จ่ายยิ่งพุ่ง เช่น P1.5 แพงกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับ P2.5 หรือ P3.9 การเลือก pitch ต้องยึดระยะดูจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขในใบเสนอราคา
ส่วนจอ commercial ขนาดใหญ่ นำมาจัดเรียงเป็นวอลล์ได้ในบางเคส แต่ไม่ใช่ทางหลักสำหรับงานวิดีโอวอลล์มืออาชีพ เพราะการซิงก์สี ความสว่าง และระบบควบคุมจะยุ่งยากกว่า
ช่วงราคาอัปเดตที่ควรรู้
ตัวเลขต่อไปนี้คือช่วงราคาที่เห็นในตลาดไทย ณ ตอนนี้ มีความต่างตามยี่ห้อ การรับประกัน และแชนแนลจำหน่าย ใช้เป็นกรอบประมาณการเบื้องต้น
LCD Video Wall ขอบบาง ขนาด 55 นิ้ว ความสว่าง 500 ถึง 700 nit ราคาเฉพาะจออยู่ราว 28,000 ถึง 55,000 บาทต่อจอ ถ้ารุ่นขอบบางมากพิเศษหรือความสว่างสูงกว่า 700 nit อาจแตะ 60,000 บวก
จอ LED ภายในอาคาร
- P2.5 อยู่ที่ 18,000 ถึง 28,000 บาทต่อตารางเมตร P1.8 ถึง P2.0 ประมาณ 28,000 ถึง 45,000 บาทต่อตารางเมตร P1.5 ถึง P1.6 ขยับไป 45,000 ถึง 70,000 บาทต่อตารางเมตร
จอ LED ภายนอกอาคาร
- P3.9 ถึง P6 อยู่ที่ 14,000 ถึง 25,000 บาทต่อตารางเมตร แล้วแต่เกรดไดโอด ความกันน้ำ และแบรนด์แหล่งที่มา
ตัวควบคุมวิดีโอวอลล์หรือ Video Wall Controller มีตั้งแต่เครื่องแบบ hardware appliance เริ่มที่ประมาณ 25,000 ถึง 60,000 บาทสำหรับอินพุตพื้นฐาน ไปจนถึงระบบระดับโปรเจกต์หลายช่องสัญญาณที่ราคาเป็นหลักแสนขึ้นกับจำนวนอินพุตเอาต์พุตและความละเอียด 4K หรือ 8K ส่วน LED controller กับ receiver card จะถูกคิดตามจำนวน cabinet และความละเอียด
ตัวยึดหรือวอลล์เมาท์สำหรับ LCD วิดีโอวอลล์ ที่เป็นแบบ pop-out service friendly ราคาต่อชุดราว 5,000 ถึง 12,000 บาท หากเป็นเมาท์ธรรมดาจะถูกลง แต่ช่างบริการจะเหนื่อยตอนเซอร์วิสฝั่งกลางของวอลล์
โครงสร้างเหล็กหรืออลูมิเนียม สำหรับงานติดผนังที่มั่นคง บางทีใช้เมาท์อย่างเดียวเพียงพอ แต่ในหลายไซต์จริงต้องทำโครงเสริมรับน้ำหนักบนผนังปูนหรือผนังเบา งบตรงนี้เจอได้ตั้งแต่ 15,000 ไปจนถึง 150,000 บาท ขึ้นกับขนาดและวิศวกรรม
สายสัญญาณ สายไฟ และอุปกรณ์เครือข่าย รวมถึงอุปกรณ์แปลงสัญญาณ เช่น HDMI over HDBaseT หรือ fiber ราคาโดยรวมเริ่ม 5,000 บาทสำหรับงานเล็ก และแตะหลักหมื่นจนถึงหลายหมื่นในงานไกลหรือความละเอียดสูง
ค่าติดตั้งและคาลิเบรต ในกรุงเทพและปริมณฑล ทีมมืออาชีพจะคิดตั้งแต่ 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของค่าสินค้าหลัก หรือคิดเหมารวม 15,000 ถึง 80,000 บาท ขึ้นกับความยากของไซต์ การยกระดับ และงานเซตภาพ
ค่า software digital signage หรือระบบจัดการสื่อโฆษณา แบบซื้องวดเดียวหรือ subscription มีทั้งแบบต่อจุดจอและแบบต่อบัญชีผู้ใช้ ราคาตั้งแต่ไม่กี่พันบาทต่อปีต่อจอ ไปจนถึงหลักหมื่นถ้าเป็น content management system (CMS) ระดับองค์กรที่มีฟีเจอร์ครบ เช่น role-based access, playlist scheduling, proof-of-play, API
ตัวอย่างงบรวมของงานยอดฮิต
จอประชาสัมพันธ์แบบ 2x2 LCD ขนาด 55 นิ้ว ความสว่าง 500 nit ในล็อบบี้สำนักงาน ระยะดู 3 ถึง 6 เมตร
- จอ 4 ตัว งบประมาณ 120,000 ถึง 200,000 บาท วอลล์เมาท์ pop-out 4 ชุด 20,000 ถึง 40,000 บาท Video Wall Controller แบบพื้นฐานหรือใช้ฟังก์ชัน daisy-chain ของจอ บวกอุปกรณ์สื่อสาร 20,000 ถึง 60,000 บาท โครงสร้างเสริมและงานไฟฟ้า 15,000 ถึง 50,000 บาท ติดตั้งและคาลิเบรต 25,000 ถึง 60,000 บาท CMS สำหรับจอประชาสัมพันธ์ 3,000 ถึง 12,000 บาทต่อปี งบรวมที่เจอจริง 200,000 ถึง 400,000 บาท
LED Wall ขนาด 3x2 เมตร สำหรับโชว์รูมรถ ระยะดู 2.5 ถึง 5 เมตร เลือก P2.5
- LED cabinet คิดตามตารางเมตร 6 ตารางเมตร รวม 108,000 ถึง 168,000 บาท Controller และ scaling 25,000 ถึง 60,000 บาท โครงสร้างยึดกับผนัง 20,000 ถึง 80,000 บาท สายและอุปกรณ์แปลงสัญญาณ 10,000 ถึง 30,000 บาท ติดตั้งและคาลิเบรต 30,000 ถึง 80,000 บาท CMS ถ้าต้องจัดคิวคอนเทนต์ 3,000 ถึง 12,000 บาทต่อปี งบรวม 200,000 ถึง 430,000 บาท ถ้าอัปสเปกเป็น P1.8 จะเพิ่มขึ้นอีกราว 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
Video Wall สำหรับ control room 3x3 LCD 55 นิ้ว ความสว่าง 700 nit ใช้งาน 24/7 พร้อม multi-view
- จอ 9 ตัว 270,000 ถึง 450,000 บาท เมาท์ pop-out 9 ชุด 45,000 ถึง 90,000 บาท Controller ระดับโปร มีหลายอินพุตหลายหน้าต่าง 120,000 ถึง 350,000 บาท โครงสร้างและการเดินไฟสำรอง 50,000 ถึง 150,000 บาท ติดตั้งและคาลิเบรต 60,000 ถึง 150,000 บาท CMS หรือซอฟต์แวร์ผนังจอสำหรับ control room บางแห่งใช้โซลูชันเฉพาะด้านงบ 20,000 ถึง 100,000 บาท งบรวม 565,000 ถึง 1,290,000 บาท
ปัจจัยที่ทำให้ราคาสวิง
ความสว่างของจอ ยิ่งสว่างยิ่งแพง สำหรับพื้นที่ที่มีแสงกระทบสูง เช่น ล็อบบี้ที่มีผนังกระจก หรือจอโฆษณาหน้าร้าน ราคา จะขยับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเลือกต่ำเกินไปจะจบที่ภาพซีดจนต้องเพิ่มแสงเฉพาะจุดให้เปลืองไฟ
ระยะดูจริง ระยะนี้ชี้ว่าเราควรใช้ LCD หรือ LED pitch เท่าไร ถ้าระยะดูใกล้กว่า 2 เมตร LED pitch 2.5 มักเห็นเม็ดชัด ลูกค้าบางรายรับได้ บางรายไม่ ถ้าต้องเนียนจริงให้ต่ำกว่า 1.8 แต่ค่าใช้จ่ายจะตัวโต
ความสม่ำเสมอของสีและความสว่าง สำหรับงานแบรนด์และโชว์รูม ความต่างเล็กน้อยระหว่างพาเนลก็เห็นได้ ยี่ห้อที่คัดเกรดดีและมีเครื่องมือคาลิเบรตจะช่วยให้ภาพเรียบเนียน แต่ต้นทุนเพิ่ม
ระบบไฟฟ้าและการระบายอากาศ จุดนี้ถูกมองข้ามบ่อย โดยเฉพาะ LED ที่กินไฟตามความสว่างและพื้นที่ ถ้าเดิมเป็นผนังเบาและไม่มีช่องเซอร์วิส ต้องทำโครงและช่องระบายอากาศเพิ่ม การไม่เผื่อทำให้ชิ้นส่วนอายุสั้น
การรับประกันและ SLA ของบริษัททำ digital signage ผู้ขายที่มีทีมรับติดตั้ง digital signage และบริการภาคสนามจริง ค่าแรงและค่าเดินทางรวมอยู่ในราคา ระยะรับประกัน on-site แท้ๆ 3 ปี จะสูงกว่าประกันแบบ carry-in แต่ความเสี่ยงหน้างานลดลง
อุปกรณ์เสริมที่ควรใส่ตั้งแต่แรก
ผมมักให้ลูกค้าเลือกอุปกรณ์เสริมชุดนี้ตั้งแต่เฟสออกแบบ เพราะการเติมทีหลังมักแพงและยุ่ง
- ระบบสำรองไฟ UPS ขนาดพอเหมาะกับวอลล์และคอนโทรลเลอร์ ป้องกันไฟตกไฟกระชากและช่วยปิดเครื่องอย่างถูกต้อง ยืดอายุอุปกรณ์ อุปกรณ์ขยายสัญญาณภาพ ถ้าระยะสายเกิน 10 เมตรสำหรับ HDMI มอง HDBaseT หรือ fiber เพื่อคงคุณภาพสัญญาณ 4K เซนเซอร์และพัดลมเสริมในตู้หลังวอลล์ สำหรับไซต์ที่อากาศร้อนหรือปิดทึบ ลดปัญหา thermal throttling เครื่องมือคาลิเบรตเบื้องต้น อย่าง colorimeter ที่ทีมช่างใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์ปรับจูนความสว่างและไวท์พอยต์ให้เท่ากัน เคสมือถือหรือชั้นป้องกันหน้า LED ในงาน event ป้องกันความเสียหายตอนยกประกอบ
โครงงานแบบเช่าเทียบกับซื้อขาด
หลายแบรนด์ถามถึงเช่าจอ digital signage สำหรับแคมเปญ 3 เดือน ในงาน event หรือ pop-up เช่าจอ LED P3.9 ภายในอาคาร ขนาด 4x2 เมตร จะอยู่ที่ 60,000 ถึง 120,000 บาทต่อวัน รวมติดตั้งรื้อถอนและเทคนิคเชียนหนึ่งคน ถ้าเช่ารายสัปดาห์หรือรายเดือน ราคาต่อวันจะถูกลงมาก จุดคุ้มระหว่างเช่าและซื้อขาดขึ้นกับจำนวนวันใช้งานรวม เช่น ถ้าใช้สองเดือนติด งบอาจใกล้กับการซื้อ P2.5 ขนาดย่อมแล้ว แต่ถ้าการใช้งานไม่ต่อเนื่อง เช่ายังคุ้มกว่า
สำหรับร้านค้าปลีกที่ต้องการจอโฆษณาหน้าร้าน ราคา แบบวางถาวร ปีแรกซื้อขาดแล้วค่อยทยอยจ่ายค่า CMS รายปี มักประหยัดกว่าเช่าระยะยาว เพราะค่าคอนเทนต์และทีมภายในเริ่มทำเองได้
บทเรียนจากไซต์งานจริง
ร้านกาแฟสาขามุมตึก อยากได้จอโฆษณาแนวตั้งหน้าร้านให้สว่างกลางวันชัด พื้นที่เป็นกระจกหันทิศตะวันตก ช่วงแรกเลือก LCD commercial 500 nit ผลคือช่วงบ่ายภาพซีด ต้องย้ายไปจอแบบ 2,500 nit พร้อมฟิล์มกันความร้อน งบเพิ่มแต่ได้ภาพที่อ่านได้จริง ลูกค้าหยุดดูเมนูมากขึ้น จากเคสนี้จุดคุ้มค่าอยู่ที่ความสว่าง เริ่มถูกไปไม่คุ้มเวลาจริง
โชว์รูมรถติด LED P2.5 ขนาด 5x2 เมตร ติดตั้งชิดผนังปิดทึบ ไม่มีช่องเซอร์วิสและระบายอากาศ ผ่านไป 6 เดือนเริ่มมีโมดูลเฉดสีเพี้ยนและดับจุดๆ สุดท้ายต้องทำช่องเซอร์วิสแบบสวิงและเพิ่มพัดลมไล่อากาศ หลังแก้แล้วอาการหาย เรื่องธรรมดาแต่เจอบ่อย อย่าลืมออกแบบบริการหลังติดตั้งตั้งแต่แรก
สำนักงานต้องการวอลล์ 3x3 แสดงแหล่งข้อมูลหลายจอ หวังใช้สวิตช์ธรรมดาบวกสาย HDMI ยาว 15 เมตร ปรากฏสัญญาณแกว่ง พอเปลี่ยนเป็น HDBaseT และ controller ที่รองรับ multi-view ทุกอย่างนิ่ง เป็นเงินก้อนที่ต้องจ่ายแต่ลดภาระทีม IT ได้มาก
พูดถึงซอฟต์แวร์และคอนเทนต์ให้จบตั้งแต่วันแรก
ฮาร์ดแวร์ดีไม่มีคอนเทนต์ก็ไม่ช่วย การเลือก software digital signage และระบบจัดการสื่อโฆษณา สำคัญไม่แพ้สเปกจอ สำหรับจอโฆษณา digital signage ที่ต้องหมุนแคมเปญเป็นสัปดาห์ หรือจอประชาสัมพันธ์ที่ต้องอัปเดตรายวัน ควรมี CMS ที่ให้ทีมการตลาดอัปโหลด วางคิว จัดเพลย์ลิสต์ และดูผลเผยแพร่ได้เอง ถ้าองค์กรต้องการรายงานการเล่นสื่อ เพื่อยืนยันกับคู่ค้าหรือเอเจนซี เลือก CMS ที่มี proof-of-play และสามารถต่อ API เข้าระบบกลางได้
สำหรับคอนเทนต์แบบวิดีโอวอลล์ขนาดใหญ่ อย่าลืมทำไฟล์ให้ตรงสัดส่วนจริง ตัวอย่าง 2x2 LCD 55 นิ้ว ถ้าเป็น bezel 1.7 มิลลิเมตร ผลรวมขอบมีผลต่อสัดส่วนด้วย ลองเรนเดอร์ mockup ที่มีรอยต่อ เพื่อดูว่าตัวหนังสือหรือโลโก้ไปทับขอบหรือไม่ ส่วน LED ให้ตรวจสอบขนาดจริงเป็นพิกเซลจาก controller แล้วส่งไฟล์ตามนั้นจะดีที่สุด
แนวทางออกแบบงบแบบไม่บานปลาย
เริ่มจากโจทย์ธุรกิจ ไม่ใช่สเปกจอ ตั้งเป้าผลลัพธ์ เช่น ต้องการจุดหยุดสายตาในทางเดินห้าง หรืออยากแสดงข้อมูลสดแบบหลายหน้าต่างใน control room สเปกจอจะตามมาเอง และมักประหยัดกว่าเริ่มจากคำว่าใหญ่สุดหรือชัดสุด
เทียบค่าใช้จ่ายต่ออายุการใช้งาน ในอาคาร usage 10 ถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน จอ LCD commercial เกรด 24/7 จะคุ้มกว่า consumer ทีวี เพราะทีวีบ้านมักเริ่มซีดหรือเกิดภาพค้างเร็วกว่ามาก ค่าน้ำไฟและค่าเสื่อมรวมกันแล้วส่วนต่างราคาแรกเริ่มมักคุ้ม
เผื่อพื้นที่เซอร์วิสและการระบายอากาศอย่างน้อย 20 เซนติเมตรด้านหลัง สำหรับ LED หากใช้ตู้ปิดให้คิดทิศทางลมเข้าออกและตำแหน่งฟิลเตอร์ฝุ่นด้วย งานที่ไม่เผื่อมักเสียเวลาซ่อมและหยุดโชว์บ่อย
เตรียมไฟฟ้าสำรองและกราวด์ดีๆ LED ผืนใหญ่เวลาเต็มสว่างกินไฟสูงกว่าที่หลายคนคิด วางเบรกเกอร์แยกวงจรและเลือกสายให้เหมาะ ความนิ่งของระบบขึ้นกับไฟเกือบครึ่งหนึ่ง
สำหรับไซต์ที่มีทีม IT เข้มแข็ง พิจารณา CMS on-premise เพื่อลดข้อจำกัดด้านนโยบายความปลอดภัย แต่ต้องเตรียมเซิร์ฟเวอร์และการสำรองข้อมูล สำหรับสาขาที่กระจายหลายจุด CMS cloud ช่วยลดงานซัพพอร์ตและอัปเดตฟีเจอร์ได้ไวกว่ามาก
เปรียบเทียบทางเลือกเมื่อพื้นที่จำกัด
ถ้าพื้นที่ผนังไม่แข็งแรงพอรับน้ำหนัก 2x2 LCD หรือ LED ผืนใหญ่ พิจารณา digital signage Kiosk แบบจอทัชสกรีน Kiosk ที่ตั้งพื้น เสียบปลั๊กใช้งานได้เลย สายงานค้าปลีกและรีเทลชอบเพราะปรับย้ายตำแหน่งง่าย digital signage Kiosk ราคา อยู่ช่วง 25,000 ถึง 65,000 บาทสำหรับขนาด 43 ถึง 55 นิ้ว แบบไม่ทัช ถ้าเป็นทัชสกรีนจะเริ่ม 50,000 ไปจนถึง 120,000 บาท ตามเทคโนโลยีทัชและวัสดุตัวตู้
จอโฆษณาแนวตั้ง หน้าร้านที่ต้องการภาพสว่างมากๆ ควรเลือกรุ่น high brightness 1,500 ถึง 3,000 nit พร้อมเซนเซอร์ปรับแสงอัตโนมัติ งบเริ่ม 45,000 ถึง 120,000 บาทต่อจอ แล้วแต่ขนาดและแบรนด์ หากเป็นสื่อระยะสั้นหรือแคมเปญตามฤดูกาล ลองชั่งน้ำหนักระหว่างเช่าและซื้อ ต้นทุนการยก ย้าย และเก็บรักษาเป็นตัวแปรสำคัญ
เลือกพันธมิตรให้ถูกตั้งแต่ต้น
บริษัททำ digital signage ที่ดีจะไม่ยัดสเปก แต่จะถามโจทย์การใช้งาน วัดแสง วัดระยะ และดูระบบไฟฟ้าหน้างาน ก่อนสรุปราคา ใบเสนอราคาที่อ่านง่ายจะระบุแบรนด์ รุ่น ความสว่าง ระยะรับประกัน SLA รายการอุปกรณ์เสริม และขอบเขตงานติดตั้งชัดเจน ถ้ามีเงื่อนไขพิเศษ เช่น การทำงานนอกเวลา การยกของขึ้นชั้นสูง หรือการขออนุญาตอาคาร ควรใส่ไว้ในใบเสนอราคา digital signage ให้ครบเพื่อลดความคลาดเคลื่อน
หากองค์กรยังไม่มั่นใจ เริ่มจากงาน pilot ขนาดเล็ก 1x2 หรือ LED ผืนเล็ก แล้ววัดผลการรับชม ยอดขาย หรือ dwell time ก่อนขยาย เมื่อเห็นผลลัพธ์ งบต่อเฟสจะอนุมัติง่ายขึ้น
เคล็ดลับจัดคอนเทนต์ให้คุ้มจอ
งานที่ติดตั้งมาหลายไซต์ สรุปได้ว่าคอนเทนต์ทำให้งบฮาร์ดแวร์คุ้มค่าหรือไม่ ข้อสังเกตที่ใช้ได้จริง
- วางจุดโฟกัสใหญ่หนึ่งจุดต่อเฟรม อย่ายัดข้อมูลมากเกิน ทำให้คนเดินผ่านไม่หยุดตา รักษาความเร็ว motion ให้เหมาะกับระยะเดินผ่าน 3 ถึง 5 วินาทีต่อ key message มักได้ผลในห้าง ปรับความคอนทราสต์และสีให้เข้ากับแสงหน้างาน สีขาวล้วนบนจอ LED กลางพื้นที่สว่างอาจแสบตา ใส่ safe zone สำหรับรอยต่อ LCD โดยเฉพาะโลโก้และข้อความสำคัญ ทดสอบกับไฟล์จริงที่ความละเอียดสุดท้าย ไม่พึ่งแค่ mockup ในคอมพิวเตอร์
สรุปมุมมองราคาและการตัดสินใจ
เมื่อดูทั้งภาพ ตลาดวิดีโอวอลล์ในไทยมีทางเลือกเยอะขึ้น ราคาต่อคุณภาพดีขึ้นกว่าหลายปีก่อน แต่ความต่างราคาไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์อย่างเดียว อยู่ที่การออกแบบหน้างาน ระบบไฟฟ้า การเดินสัญญาณ การเซอร์วิส และซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ทีมของคุณบริหารสื่อได้คล่อง ถ้าคุณต้องการจอภาพโฆษณาแบบครบวงจร ตั้งแต่ขายจอ digital signage ไปจนถึงรับติดตั้ง digital signage และดูแล CMS มองหาทีมที่อธิบาย trade-off ตรงไปตรงมา และยินดีให้ลองก่อนซื้อจริง
สุดท้าย ถ้าอยากประเมินราคา digital signage ให้แม่น เตรียมข้อมูลให้ผู้ขายตั้งแต่ต้น ได้แก่ ขนาดพื้นที่ ระยะดูจริง ความสว่างแวดล้อม ชั่วโมงการใช้งานต่อวัน แหล่งสัญญาณภาพ และความต้องการด้าน CMS คำตอบที่ได้จะใกล้ของจริงมากขึ้น ลดเวลาปรับแก้ และช่วยให้คุณได้วิดีโอวอลล์ที่ทำงานได้ทั้งในงบและในความเป็นจริงของหน้างานคุณ